ปัญหาเศรษฐกิจ...เวียดนาม
เวียดนามกำลังเติบโตแต่มีปัญหาที่ต้องฝ่าฟัน
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้เวียดนามต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจหลายด้านทั้งเงินเฟ้อสูงและขาดดุลการ ค้า แต่นักลงทุนต่างๆ ยังคงมองเวียดนามเป็นแหล่งดึงดูดการลงทุนที่น่าสนใจ ขณะเดียวกันนักลงทุนชาวเวียดนามเองก็เริ่มมองหาแหล่งลงทุนในต่างประเทศมาก ขึ้นด้วย ทำให้เวียดนามกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของไทย ทั้งในแง่การดึงดูดเงินลงทุนจากต่างชาติและการแย่งชิงแหล่งลงทุนที่มี ศักยภาพในเวลาเดียวกัน
รายงานเกี่ยวกับมาตรฐานความเป็นอยู่ของชาวเวียดนาม ระบุว่า ช่องว่างรายได้คนรวย-จนในเวียดนาม ยังคงขยายกว้าง สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) และธนาคารโลก ได้รายงานว่า ช่องว่างรายได้ระหว่างคนรวยและคนจนในเวียดนามยังคงขยายกว้าง โดยประชาชนใน เมืองช่วงปี 2555 มีรายได้เฉลี่ย 3 ล้านด่งต่อเดือน (142 ล้านดอลลาร์) ขณะที่รายได้ต่อเดือนของประชาชนในชนบทอยู่ที่ 1.6 ล้านด่ง (76 ล้านดอลลาร์) กลุ่มคนที่ยากจนที่สุดในประเทศมีรายได้เฉลี่ย 512,000 ด่งต่อเดือน (24 ดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 38.5% จากปี 2553 ขณะที่คนรวยมีรายได้เฉลี่ย 4.8 ล้านด่ง (227 ดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 40% จากปีก่อนหน้านี้ นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารโลกเวียดนาม กล่าวว่า รายงานดังกล่าว ถือว่าเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับธนาคารโลก และผู้กำหนดนโยบายของเวียดนาม และการศึกษาในลักษณะนี้ควรได้รับการส่งเสริมอย่างต่อเนื่องต่อไป...
ปัญหาอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนาม
- อัตราเงินเฟ้อและการขาดดุลการค้า
การเพิ่มของดัชนีราคาผู้บริโภคร้อยละ12.63
ในรอบปีที่ผ่านมา
ซึ่งสูงกว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้สร้างความกังวลอย่างมากแก่รัฐบาลเวียดนามธนาคารชาติของ เวียดนาม
ได้ใช้นโยบายการเงินเพื่อดูดซับสภาพคล่องส่วนเกินในตลาดเงิน
โดยให้ธนาคารพาณิชย์เพิ่มสัดส่วนการกันเงินสำรอง และออกมาตรการต่างๆ
รวมถึงการออกพันธบัตรให้อัตราดอกเบี้ยที่จูงใจ
แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะควบคุมอัตราเงินเฟ้อได้โดยในปี 2551
เป้าหมายการควบคุมอัตราเงินเฟ้อจะเป็นข้อจำกัดสำคัญสำหรับรัฐบาล เวียดนาม
ในการใช้เครื่องมือด้านอัตราแลกเปลี่ยนในการส่งเสริมการส่งออกเวียดนาม
พยายามรักษาระดับค่าเงินด่องไม่ให้แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ
เพื่อเป็นปัจจัยสนับสนุนการส่งออกโดยเชื่อว่าธนาคารชาติ เวียดนาม
จะเผชิญแรงกดดันให้ต้องปล่อยให้ค่าเงินด่องเป็นไปตามทิศทางของตลาดมากขึ้น
- การขาดแคลนแรงงานที่มีความเชี่ยวชาญ
- พลังงาน
- โครงสร้างพื้นฐาน โครงสร้างพื้นฐาน
เวียดนาม ยังต้องพัฒนา ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนา เศรษฐกิจอีกมาก ได้แก่ เส้นทางคมนาคม ทั้งถนน ทางรถไฟ ท่าเรือ และการผลิตกระแสไฟฟ้า สำหรับโครงการเส้นทางคมนาคมที่มีลำดับความสำคัญสูง ได้แก่ โครงการทางด่วน 244 กม. ระหว่างกรุงฮานอยกับเมือง Lao Cai ติดชายแดนจีน ซึ่งจะอำนวยความสะดวกแก่การขนส่งจากมณฑลยูนนาน-ฮานอย-เมืองท่าไฮฟอง รวมทั้งก่อให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ภาคเหนือของ เวียดนาม ปฏิรูปองค์กรทางราชการที่มีความรับผิดชอบ โปร่งใส รวมถึงพัฒนาสถาบันและคุณภาพทางการศึกษา และการรักษาพยาบาล และหน่วยงานบริการสังคมอื่นๆ
- การปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ
รัฐบาล เวียดนาม พยายามที่จะดำเนินการปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศมากขึ้น เอื้ออำนวยต่อการประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก และสนับสนุนภาคเอกชน เวียดนาม ไปลงทุนในต่างประเทศ โดยจะให้มีการลดขั้นตอนการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจ อำนวยความสะดวกขั้นตอนด้านภาษี และเร่งกระบวนการแปรรูปรัฐวิสาหกิจเพื่อส่งเสริมตลาดทุนของ เวียดนาม อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวยังจะเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากระบบภาษีของ เวียดนาม มีความซับซ้อนยุ่งยาก ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการลงทุนก็มีการกำหนดสิทธิประโยชน์ทาง ภาษีในรายละเอียดมากเกินไปและขาดเป้าหมายที่ชัดเจน สำหรับกระบวนการแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่ผ่านมาก็ดำเนินไปได้น้อยมากเนื่องจาก ปัญหาการตีมูลค่าทรัพย์สินของรัฐ
- การพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อส่งเสริมการเติบโตที่ยั่งยืน
ผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจล้วนแสดงความเชื่อมั่นในอนาคตที่สดใสของเศรษฐกิจ เวียดนาม และเห็นว่า เวียดนาม จะสามารถบรรลุเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจร้อยละ 8.5-9 ในปี 2551 ได้โดยไม่ยากนักการพัฒนาของประเทศ เวียดนาม เป็นที่น่าจับตามอง โดยในชั้นนี้อาจกล่าวได้ว่า เวียดนาม เป็นตัวอย่างที่ดี สำหรับประเทศต่างๆ ที่กำลังพยายามลดปัญหาความยากจน
เวียดนามเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับประเทศที่กำลังพยายามพัฒนาเศรษฐกิจอย่างไรก็ตามการที่เวียดนามจะปรับสถานะขึ้นสู่การเป็นประเทศที่มีรายได้ระดับกลางได้นั้น ทางรัฐบาลเวียดนามต้องพบกับความท้าทาย และต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น