วันจันทร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2557

สาธารณรัฐฟิลิปปินส์



สาธารณรัฐฟิลิปปินส์



               ฟิลิปปินส์ (the Philippines) หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ (Republic of the Philippines) เป็นประเทศที่ประกอบด้วยเกาะจำนวน 7,107 เกาะ ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก ห่างจากเอเชียแผ่นดินใหญ่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ 100 กม.และมีลักษณะพิเศษคือเป็นประเทศเพียงหนึ่งเดียวที่มีพรมแดนทางทะเลที่ ติดต่อระหว่างกันยาวมากที่สุดในโลก นิวสเปน (พ.ศ. 2064-2441) และสหรัฐอเมริกา (พ.ศ. 2441-2489) ได้ครองฟิลิปปินส์เป็นอาณานิคมเป็นเวลา 4 ศตวรรษ และเป็นสองอิทธิพลใหญ่ที่สุดต่อวัฒนธรรมของฟิลิปปินส์ฟิลิปปินส์เป็นชาติ เดียวในเอเชีย ที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ และเป็นหนึ่งในชาติที่ได้รับอิทธิพลจากตะวันตกมากที่สุด เป็นการผสมผสานกันระหว่างตะวันตกและตะวันออก ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ อาร์โนลด์ โจเซฟ ทอยน์บี (Arnold Joseph Toynbee) นักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษ ได้กล่าวไว้ในงานของเขาว่า ประเทศฟิลิปปินส์เป็นประเทศลาตินอเมริกาที่ถูกพัดพาไปยังตะวันออก โดยคลื่นทะเลยักษ์
ภูมิศาสตร์


   ธงชาติของประเทศ
 
 
        
                                     ตราแผ่นดิน

ดอกไม้ประจำชาติประเทศฟิลิปปินส

ดอกไม้ประจำชาติประเทศฟิลิปปินส์


            ดอกไม้ประจำชาติฟิลิปปินส์ คือ ดอกพุดแก้ว (Sampaguita Jasmine) ดอกมีสีขาวกลีบดอกเป็นรูปดาว มีกลิ่นหอม บานส่งกลิ่นในตอนกลางคืน ถือเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ เรียบง่าย อ่อนน้อมถ่อมตน รวมถึงความเข้มแข็งอีกด้วย เคยถูกนำมาใช้เฉลิมฉลองในตำนานเรื่องเล่ารวมทั้งบทเพลงของฟิลิปปินส์ด้วย เช่นกัน


  ภูมิประเทศของฟิลิปปินส์
ภูมิประเทศของฟิลิปปินส์แบ่งออกเป็น
3 หมู่เกาะ ดังนี้
1) ลูซอน : เป็นหมู่เกาะทางตอนเหนือของประเทศ ที่ราบกว้างอยู่ 2 บริเวณ คือ ที่ราบลุ่มแม่น้ำคากายัน,ที่ราบมะนิลา
2) วิสายาส์ : อยู่ทางตอนกลางของประเทศ ประกอบด้วยเกาะเนกรอส , ปาไน,เลเต ,เซบู ,โบโฮล ,มินโดโร , ซามาร์ ,มาสบาเต
3) มินดาเนา : อยู่ทางตอนใต้มีที่ราบกว้างอยู่ 2 บริเวณ คือ ที่ราบลุ่มอกูซาน , ที่ราบลุ่มแม่น้ำมินดาเนา

สภาพภูมิอากาศ
                   สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ตั้งอยู่ในเขตร้อนชื้น ได้รับความชุ่มชื้นจากลมมรสุมทั้ง 2 ฤดูกาลคือฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้  มีอุณหภูมิเฉลี่ย 24-29 องศา และได้รับฝนจากลม  พายุไต้ฝุ่น และดีเปรสชั่น บริเวณที่ฝนตกมากที่สุด คือ เมืองบาเกียว เป็นเมืองที่ฝนตกมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้



 
การปกครอง  

ฟิลิปปินส์ปกครองในระบอบประชาธิปไตย ในรูปแบบสาธารณรัฐ มีประธานาธิบดีเป็นประมุขและหัวหน้าฝ่ายบริหาร ซึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน

ชื่อผู้นำประเทศ  คือ เบนิกโน อากีโนที่ 3 (ประธานาธิบดีคนที่15)


 สินค้าส่งออกที่สำคัญ
      สินค้าส่งออกที่สำคัญ  ได้แก่  เนื้อมะพร้าวแห้ง  น้ำมันมะพร้าว  น้ำตาล  ผ้าพื้นเมือง  ไม้แกะสลัก  เครื่องประดับต่างๆ ป่านมะนิลา โครไมต์



การคมนาคมขนส่ง
สาธารณรัฐ ฟิลิปปินส์ นิยมใช้เรือเพราะลักษณะภูมิประเทศเป็นเกาะภายในเกาะมีถนนติดต่อระหว่างเมือง ต่างๆ มะนิลาเป็นเมืองท่าและศูนย์กลางอุตสาหกรรม 



เรียนรู้วัฒนธรรมประเทศฟิลิปปินส์

ศิลปวัฒนธรรมและประเพณีของประเทศฟิลิปปินส์
                    วัฒนธรรมของฟิลิปปินส์เป็นวัฒนธรรมผสมผสานกันระหว่างตะวันตกและตะวันออก ซึ่งส่วนใหญ่จะได้รับอิทธิพลจากสเปน จีน และอเมริกัน ฟิลิปปินส์มีเทศกาลที่สำคัญ ได้แก่         




   เทศกาลอาติ – อาติหาน (Ati - Atihan)
                    จัดขึ้นเพื่อรำลึกและแสดงความเคารพต่อ “เอตาส (Aetas)” ชนเผ่าแรกที่มาตั้งรกรากอยู่บนเกาะแห่งหนึ่งในฟิลิปปินส์ และรำลึกถึงพระเยซูคริสต์ในวัยเด็ก โดยจะแต่งตัวเลียนแบบชนเผ่าเอตาส แล้วออกมารำรื่นเริงบนท้องถนนในเมืองคาลิบู (Kalibu)



   เทศกาลซินูล็อก (Sinulog)
                    งานนี้จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 3 ของเดือนมกราคมทุกปี เป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงนักบุญซานโต นินอย (Santo Nino) โดยจะจัดแสดงดนตรีและมีขบวนพาเหรดแฟนซีทั่วเมืองเซบู (Cebu)


    

 เทศกาลดินาญัง (Dinayang)
                    งานนี้จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงนักบุญซานโต นินอย (Santo Nino) เช่นเดียวกับเทศกาลซินูล็อก แต่จะจัดขึ้นในสัปดาห์ที่ 4 ของเดือนมกราคม ที่เมืองอิโลอิโย



ดนตรีและศิลปะฟิลิปปินส์
                    
         ดนตรีและศิลปะชาวฟิลิปปินส์ได้รับอิทธิพลจากทั้งสองวัฒนธรรมที่มีการย้ายไป ยังประเทศนี้ ประเภทแรกของเพลงที่พัฒนาขึ้นในประเทศฟิลิปปินส์เป็นเพลงพื้นเมืองที่อพยพมา จากไต้หวัน ลักษณะภาคใต้ ภาคเหนืออื่นๆ ลักษณะและรูปแบบลักษณะจะมีสามกลุ่มพื้นฐานของดนตรีพื้นเมือง สไตล์ภาคใต้ของเพลงมักจะเกี่ยวข้องกับการใช้ที่แตกต่างกันรวมทั้งห้า Kulintang,Agung,Gangdinagan,Dabakan และ Babedil รูปแบบของดนตรีพื้นบ้านเภาคเหนือของเพลงสะท้อนให้เห็นถึงฆ้องเอเซีย เพลงของพวกเขามักจะมีฆ้อง Unbossed เรียกว่า Gangsa นอกเหนือจากเครื่องมือที่ใช้ในภาคใต้และภาคเหนือของสไตล์ดนตรี อุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้ในประเทศฟิลิปปินส์รวมถึงการเข้าสู่ระบบกลอง ปี่ zithers ไม้ไผ่และ Kudyapi 


KULINTANG


AGUNG


DABAKAN


GANGSA


ZITHERS


 
KUDYAPI

การแต่งกายฟิลิปปินส์

                    การแต่งกาย ของชาวฟิลิปปินส์ในยุคนั้น นิยมใช้เครื่องประดับกาย ชาวเกาะ วิสายัน ชอบสักตามใบหน้า ร่างกาย และแขนขา ชายหญิงสวมเครื่องประดับที่ทำด้วยทองคำและเพชร พลอย ชาวพื้น เมืองนิยมใส่ปลอกแขน กำไล และสร้อยคอ ก่อนสเปนเข้าครอบครอง สังคมแบ่ง ออกเป็น 3 ชนชิ้น คือ ขุนนาง เสรีชน และทาส

             ในราวคริสต์ศตวรรษที่ 14 สเปนก็พบฟิลิปปินส์เป็นชาติแรก ต่อมาเกาะทุกเกาะก็ตกอยู่ ในการปกครองของสเปน และได้รับอารยธรรมต่าง ๆ ตลอดจนประเพณี ศาสนา วัฒนธรรมการ แต่งกาย และการดำเนินชีวิต ส่วนการแต่งกายก็ไม่มีการสวมเสื้อ แต่งกายแบบชาวเกาะ นิยม ตกแต่งด้วยเครื่องประดับ และสักตามร่างกายดังกล่าวแล้ว

             หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ฟิลิปปินส์ได้เอกราชตามสนธิสัญญา เหตุการณ์บ้านเมือง ศิลปวัฒนธรรม เครื่องแต่งกาย ก็มีการผสมผสานกันระหว่างชาวยุโรป เอเชีย และตะวันตก

            เครื่องแต่งกายประจำชาติเป็นเสื้อคอกว้างแบบตะวันตก แขนยกตั้งเป็นปีกกว้าง ทำด้วยผ้า บางและแข็งอย่างไหมสับปะรด นุ่งกระโปรงติดกับเสื้อเป็นชุดเดียวกัน ส่วนตามเกาะต่าง ๆ มีการ แต่งกายแบบคล้ายชาวมลายู และอินโดนีเซีย คือ นุ่งโสร่งปาเต๊ะ สวมเสื้อผ้าไหมสับปะรดหรือแพร แขนกระบอกยาวจดข้อมือ มีผ้าพาดบ่า ส่วนผู้ชายจะสวมเสื้อแขนยาวทำจากใบสับปะรด นุ่งกางเกง แบบสากล

              การทอผ้าใยสับปะรดทองฟิลิปปินส์ ทอกันมากกว่า 400 ปี หรือมากกว่า การทอใย สับปะรดเป็นงานที่ละเอียดอ่อนใช้เวลามาก ใยสับปะรดเป็นเส้นใยที่มีความเหนียวดีมาก โดยเฉพาะ เส้นใยของสับปะรดที่ได้จากเมืองอะคลัน

การแต่งกายของชาวฟิลิปปินส์ 
 

ชุดประจำชาติ ฟิลิปปินส์

 

 สถานที่ท่องเที่ยวของประเทศฟิลืปปินส์

ฟิลิปปินส์ .. แดนสวรรค์ของคนรักทะเล ปัจจุบันฟิลิปปินส์เป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก แม้ล่าสุดฟิลิปปินส์จะเพิ่งผ่านเหตุการณ์เลวร้าย จากไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนพัดเข้าถล่ม แต่ในยามปกติ ฟิลิปปินส์ขึ้นชื่อว่าเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยว ที่ชื่นชอบสายลม แสงแดด และน้ำทะเล วันนี้ 
จะพาไปเที่ยวทะเลในฟิลิปปินส์กัน ไปดูกันว่า จะสวยงามสมคำร่ำลือหรือไม่

หลงเสน่ห์ทะเล เที่ยวฟิลิปปินส์.. ในวันฟ้าใส

 

หลงเสน่ห์ทะเล เที่ยวฟิลิปปินส์.. ในวันฟ้าใส


หากใครที่ติดตามข่าวฟิลิปปินส์ในช่วงนี้ ก็คงจะได้เห็นแค่ภาพความเสียหาย จากการถูกซูเปอร์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนพัดเข้าถล่ม โดยเฉพาะที่เมืองทาโคลบันที่เสียหายหนักสุด แต่ก่อนหน้าที่ฟิลิปปินส์จะมีสภาพเช่นตอนนี้ ประเทศนี้ ขึ้นชื่อเรื่องการท่องเที่ยวไม่แพ้ประเทศอื่นๆ ในอาเซียน โดยมีจุดขายอยู่ที่ชายหาดที่สวยงาม และป่าไม้ที่ยังคงความสมบูรณ์ รอให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเยี่ยมชม ทีมงานจึงรวบรวมชายหาดที่สวยที่สุดในฟิลิปปินส์ มาฝากสมาชิกมิตรรักได้รู้จักกัน เรียกได้ว่าหากใครที่ได้เห็น
แล้ว คงเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อฟิลิปปินส์ไปโดยปริยาย


หลงเสน่ห์ทะเล เที่ยวฟิลิปปินส์.. ในวันฟ้าใส

 หาดปากุดปุด (Pagudpud)
 ที่ อยู่ทางตอนเหนือของเกาะลูซอน (Luzon) หาดแห่งนี้ ได้รับการขนานนามว่าเป็นฮาวายแห่งฟิลิปปินส์ เนื่องจากมีคลื่นสูงและลมแรง เหมาะสำหรับการเล่นวินเซิร์ฟโต้คลื่น ดังนั้น นักเล่นเซิร์ฟจากทั่วโลก จึงมารวมตัวกันอยู่ที่หาดแห่งนี้ จึงเป็นมากกว่าหาดที่มีไว้สำหรับการว่ายน้ำ และเดินชมวิว


หลงเสน่ห์ทะเล เที่ยวฟิลิปปินส์.. ในวันฟ้าใส

 หาดโบราไกย์ (Boracay Beach) 
 ชายหาดที่เคยได้รับการยกย่องให้เป็นชายหาดที่สวยที่สุดในโลก โดยนิตยสารทราเวล แอนด์ลีเชอร์ จุดเด่นของโบราไกย์ คือ หาดทรายสีขาวที่ทอดตัวยาวขนานไปกับเกลียวคลื่น และน้ำทะเลที่เย็นสบาย บวกกับความสะอาด ที่เรียกได้ว่า ยากที่จะหาที่ใดเหมือน เนื่องจากที่นี่ มีกฎที่กำหนดว่าห้ามทิ้งขยะ และทุกคนก็ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ซึ่งใครที่เดินทางมาในตอนกลางวัน จะสัมผัสได้ถึงความเงียบสงบ แต่พอตกกลางคืน สถานที่แห่งนี้จะแปรเปลี่ยนเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่รักการท่องราตรี

หลงเสน่ห์ทะเล เที่ยวฟิลิปปินส์.. ในวันฟ้าใส


 เกาะมักตัน (Mactan Island) แห่ง เมืองเชบู 
 ที่แห่งนี้ ขึ้นชื่อเรื่องรีสอร์ทสุดหรู ที่ตั้งเรียงรายรองรับนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก ซึ่งใครที่มาพักบนเกาะแห่งนี้ จะได้พบกับกิจกรรมทางน้ำมากมาย บนชายหาดส่วนตัวของรีสอร์ท บางคนยกให้เกาะมักตัน เป็นเกาะที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักความสะดวกสบาย และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน


หลงเสน่ห์ทะเล เที่ยวฟิลิปปินส์.. ในวันฟ้าใส


 ชายหาดคามิกวิน (Camiguin Beach) 
 ที่ ได้รับการยกย่องให้เป็นสวนอีเดนของฟิลิปปินส์ บางคนขนาดยกย่องว่า ชายหาดแห่งนี้ คือ สวรรค์บนดินเพียงแห่งเดียว ที่สามารถหาได้ในฟิลิปปินส์ ความโดดเด่นของคามิกวินนั้น อยู่ตรงที่ความแตกต่างหลากหลายของธรรมชาติ ที่มีทั้งชายหาดที่สวยงาม มีทั้งน้ำพุร้อน และน้ำพุเย็น หากเดินเข้าไปในป่า ก็จะพบกับน้ำตก และลำธารธรรมชาติ เรียกได้ว่า ใครที่มาเยือนที่นี่ จะมีความรู้สึกว่าอยากกลับมาอีกครั้ง เหมือนกับความหมายของคำว่า คามิกวิน ที่เป็นภาษากวีแปลได้ว่า มาอีกครั้ง นั่นเอง


หลงเสน่ห์ทะเล เที่ยวฟิลิปปินส์.. ในวันฟ้าใส


 Laswitan Lagoon 
 ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองซูริเกา เดล ซูร์ ทะเลสาบน้ำเค็มแห่งนี้ ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัยได้เป็นจำนวนมาก นอกจากความสวยงามของทะเลสาบที่มีเนินหินขนาดใหญ่รายล้อมแล้ว ที่นี่ยังมีน้ำตก ที่แปลกประหลาดไปจากน้ำตกที่อื่น เพราะเป็นน้ำตกน้ำเค็ม น้ำตกดังกล่าว เกิดจากคลื่นขนาดใหญ่ ที่ซัดเข้ามาจากมหาสมุทรแปซิฟิก เมื่อคลื่นกระทบกับโขดหิน จึงทำให้เกิดน้ำตกขนาดเล็กขึ้น ซึ่งน้ำทะเลได้ไหลมารวมกัน จนเกิดเป็นทะเลสาบขนาดย่อม สร้างความสวยงามแปลกตาไปอีกแบบ


หลงเสน่ห์ทะเล เที่ยวฟิลิปปินส์.. ในวันฟ้าใส


นอกจากทะเลยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย เช่น
 

สวนไรซาล (Rizal Park)

สวนไรซาล
   สวนไรซาล (Rizal Park) หรือมี อีกชื่อว่า ลูเนตา (Luneta) เป็นสวนหย่อมขนาดใหญ่ของเมือง และเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ โฮเซ่ ไรซาล (Jose Rizal) ซึ่งเป็นผู้นำในการปลดแอกฟิลิปปินส์จากสเปนในช่วง ค.ศ.1896-1898 และในบริเวณเดียวกันก็เป็นจุดที่ฟิลิปปินส์ประกาศอิสรภาพเหนือสหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ. 1941 ด้วย
ป้อมซานติเอโก (Fort Santiago)  
ป้อมซานติเอโก (Fort Santiago)

   ป้อมซานติเอโก (Fort Santiago) ซึ่ง เป็นด่านแรกที่ป้องกันการโจมตีจากข้าศึก ที่เข้ามาทางปากแม่น้ำปาซิก จากอ่าวมะนิลา ป้อมแห่งนี้ถูกทำลายจากการโจมตีของกองทัพสหรัฐ ต่อมาได้บูรณะซ่อมแซมเพื่อให้เป็น “ปูชนียสถานแห่งเสรีภาพ ” (Shrine of Freedom) บริเวณรอบป้อมมีสวนหย่อม รายล้อมโดยมีรถม้าให้บริการ พาชมรอบบริเวณ บริเวณดังกล่าว ยังมีสถานที่คุมขังนักโทษ ที่อยู่บริเวณริมแม่น้ำปากแม่น้ำปาซิก และส่วนหนึ่งของป้อมนี้ ถูกทำเป็นสนามกอล์ฟอย่างสวยงาม
  
กรุงมะนิลา 
กรุงมะนิลา

   กรุงมะนิลา เมืองหลวงของประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องของการร้องรำทำเพลง ประชาชนรักเสียงเพลงและความสนุกสนาน มะนิลาคือศูนย์กลางของเขตมหานครที่มีประชากรมากกว่า 10 ล้านคน ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของอ่าวมะนิลา (Manila Bay) บนเกาะลูซอนซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดและตั้งอยู่ทางเหนือสุดของฟิลิปปินส์ เป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ และเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม การศึกษา และอุตสาหกรรมรมของประเทศหลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก BAYVIEW PARK HOTEL 4 ดาว หรือเทียบเท่า
โบสถ์ซาน อากุสติน (San Agustin) 
โบสถ์ซาน อากุสติน

   โบสถ์ซาน อากุสติน (San Agustin) ซึ่ง เป็นโบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมทรงสเปน ที่สง่างาม สร้างขึ้นในปี 1599 โบสถ์แห่งนี้ สร้างขึ้นเป็นครั้งที่สาม โดยสองครั้งแรกถูกไฟไหม้ไป
ปักซังฮัน (Pagsanjan)
 ปักซังฮัน (Pagsanjan) 
 เป็นแหล่งล่องแก่งชั้นยอด นักท่องเที่ยวส่วนมากจะมาเปลี่ยนชุดเพื่อว่ายน้ำ หรือกางเกงขาสั้น เล่นน้ำตกปักซังฮัน แล้วทวนน้ำขึ้นไปกับเรือ ซึ่งท่านจะเพลิดเพลินกับการผจญภัยกับการนั่งเรือทวนน้ำ เรือบันกา ซึ่งบ่อยครั้ง อาจจะเกยตื้น หรือติดแก่งจนทำให้คนเรือต้องลงมาผลักหรือยกเรือเพื่อไปชมน้ำตก พร้อมทั้งได้ชื่นชมความสดชื่นของน้ำที่ไหลผ่าน ชมความสวยงามของธรรมชาติ ที่สรรค์สร้างได้อย่างลงตัว ในตอนล่องเรือผ่าน้ำเชียวขากลับนั้น คุณจะรู้สึกสนุกตื่นเต้นอย่าบอกใครเลยทีเดียว พร้อมทั้งเปิดประสบการณ์ใหม่ที่ท่านไม่เคยลืม เรือจะไหลล่องเข้าสู่โตรกธาร ผ่านน้ำตกเล็ก๐ ที่ล้อแดดระยิบระยับและตะไคร้น้ำสีเขียวสด ผาสองข้างทางสูงเกือบ 100 เมตร ลมสงบนิ่ง ขณะที่ป่าส่งเสียงครางมาแผ่วๆ แวะซื้อขนมขึ้นชื่อ “พายมะพร้าวอ่อน” แสนอร่อย ที่เต็มไปด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อนหนานุ่ม
 
Boracay Island 
Boracay Island
   เป็นหนึ่งในเกาะในหมู่เกาะที่ดีที่สุดทั่วฟิลิปปินส์ และได้ประกาศเกาะที่สวยที่สุดทั่วโลกBoracay Island เป็นเกาะเขตร้อนตั้งอยู่ประมาณ 315 กิโลเมตร ทางใต้ของมะนิลาและสองกิโลเมตรปิดปลายตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ Panay ใน Visayas ภาคตะวันตกของฟิลิปปินส์ Boracay เป็นส่วนหนึ่งของเทศบาลเมืองของมาเลย์ในจังหวัด Aklan ซึ่งตั้งอยู่ใน Panay หนึ่งในกลุ่มของหมู่เกาะที่แสดงในส่วนกลางของหมู่เกาะฟิลิปปินส์ Boracay มีสองหาดท่องเที่ยวหลัก White Beach และ Bulabog Beach 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น